วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร

ตั้งอยู่ริมคลองสนามไชย ฝั่งตะวันตก (ฝั่งธนบุรี) กรุงเทพมหานคร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาก่อนการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมมีชื่อว่า "วัดจอมทอง" บ้าง "วัดเจ้าทอง" บ้าง หรือ "วัดกองทอง" บ้าง

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระองค์ทรงผูกพันกับวัดนี้ เนื่องจากพระปัยยิกา (ยายทวด) ของพระองค์มีนิวาสสถานอยู่ในย่านนี้ จึงทรงมีพระญาติอยู่มาก ทั้งยังเป็นวัดที่พระชนกพระชนนีในสมเด็จพระศรีสุลาไลยพระบรมราชชนนีในพระองค์ ทรงทำนุบำรุงอยู่ด้วย

ในปี พ.ศ. 2363 เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงยกทัพไปสกัดทัพพม่าที่ด่านเจดีย์สามองค์ กาญจนบุรี เมื่อกระบวนทัพเรือมาถึงวัดจอมทอง ฝั่งธนบุรี ทรงหยุดพักและทำพิธีเบิกโขลนทวารตามตำราพิชัยสงคราม พร้อมทรงอธิษฐานขอให้การไปราชการทัพครั้งนี้ได้ชัยชนะ แต่ปรากฏว่าไม่มีทัพพม่ายกเข้ามา เมื่อยกทัพกลับ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดจอมทองใหม่และถวายเป็นพระอารามหลวง ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่าวัดราชโอรสาราม ซึ่งหมายถึง พระราชโอรสคือ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์

การก่อสร้างวัดราชโอรสารามใช้เวลาถึง 11 ปี เมื่อแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ไปประดิษฐานไว้ ณ มณฑปวัดราชโอรสาราม และทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการสมโภชพระอารามเมื่อวันที่ 15-17 มกราคม พ.ศ. 2374

วัดราชโอรสารามเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามและโดดเด่น โดยได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะไทยและจีนผสมผสานกัน อาคารที่สำคัญภายในวัด ได้แก่

  • พระอุโบสถ ลักษณะเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ หลังคาลดหลั่นสามชั้น ผนังด้านหน้ามีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติและทศชาติชาดก
  • มณฑป เป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
  • พระวิหาร ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร
  • ศาลาการเปรียญ เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน
  • หอพระไตรปิฎก
  • หอระฆัง

วัดราชโอรสารามเป็นวัดที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม เป็นสถานที่สำคัญในการประกอบพระราชพิธีต่างๆ ของพระมหากษัตริย์ไทย และเป็นวัดที่มีประชาชนนิยมมานมัสการพระและไหว้พระขอพรเป็นจำนวนมาก

คุณค่าทางประวัติศาสตร์ของวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

วัดราชโอรสารามเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดจอมทอง ภายหลังได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ซึ่งทรงมีความผูกพันกับวัดนี้เป็นอย่างยิ่ง พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดราชโอรสารามเป็นวัดประจำรัชกาล และทรงอัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชมาประดิษฐานไว้ที่มณฑปภายในวัด

วัดราชโอรสารามจึงเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก เป็นสถานที่ที่รวบรวมความทรงจำอันงดงามของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างพระมหากษัตริย์กับวัดวาอาราม

คุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมของวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

วัดราชโอรสารามเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามและโดดเด่น โดยได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะไทยและจีนผสมผสานกัน พระอุโบสถเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ หลังคาลดหลั่นสามชั้น ผนังด้านหน้ามีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติและทศชาติชาดก มณฑปเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ หลังคาเป็นทรงจัตุรมุข ประดับด้วยลวดลายไทยและจีน ภายในประดิษฐานพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

พระวิหารเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร ศาลาการเปรียญเป็นอาคารทรงไทย หลังคาลดหลั่นสามชั้น ประดับด้วยลวดลายไทย ภายในประดิษฐานพระประธาน หอพระไตรปิฎกและหอระฆังเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ ประดับด้วยลวด